คลินิกการแพทย์แผนตะวันออก ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพและความงาม วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก โทร. 02-997-2222 ต่อ 4406, 4407
หรือ โทรศัพท์: 089-770-5862





กวาซา



กวาซา รักษาโรคอะไรได้บ้าง

หลายคนคงจะคุ้นเคยกับคำว่า “กวาซา” มาบ้างแล้ว หรือหลายคนคงเคยได้รับการรักษามาบ้าง วันนี้จะขออธิบายเพื่อเกิดความเข้าใจในศาสตร์การรักษาของคนจีนอีกแบบหนึ่งที่มีมายาวนาน 
การ “กวาซา” นั้น ได้ใช้จุดและเส้นลมปราณเป็นหลัก และใช้แผ่นพลาสติก แผ่นไม้ หรือเขาสัตว์ สำหรับ กวาซา น้ำมันนวด เหล้าขาว น้ำเปล่า หรือใช้วาสลินเป็นต้น มาใช้เป็นอุปกรณ์ในการกวาซา โดย ขูดบริเวณผิวหนัง ที่มี จุดหรือเส้นลมปราณที่ต้องการรักษากลับไปกลับมา ให้เกิดเป็นปื้นแดงหรือห้อเลือดบริเวณผิวหนังที่รักษา การกวาซานอกจากจะทำให้การกระตุ้นเลือดและลมปราณบริเวณที่รักษาแล้ว ยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดขับเลือดคั่ง ยืดเส้นเอ็นให้ลมปราณไหลเวียนดีและยังขจัดพิษได้ด้วย

การรักษาโดยการกวาซารักษาโรคอะไรได้บ้าง
1. โรคทั่วไป เช่นเป็นหวัด มีไข้ ตัวร้อน ไอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูกท้องเสียเป็นต้น
2. โรคเกี่ยวกับเอ็นและกล้ามเนื้อ เช่นตกหมอน คอเคล็ด ปวดคอ ไหล่ติด ปวดข้อศอก ปวดเอว ปวดบริเวณกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ เป็นต้น
3. โรคเกี่ยวกับหู ตา คอ จมูก ปาก เช่น ปวดฟัน เลือดกำเดาไหล เจ็บคอ ภูมิแพ้ เป็นต้น
4. โรคเกี่ยวกับนารีเวช เช่น ประจำเดือนมาไใ่ปกติ ปวดประจำเดือน ประจำเดือนไม่มา หลังคลอดแล้วน้ำนมน้อย วัยทองเป็นต้น
5. เกี่ยวกับความสวยความงาม เช่นสิว ฝ้า ลดกระชับหุ่น ชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย เป็นต้น

ผู้ที่ไม่เหมาะสมในการกวาซา
1. ผู้สูงอายุที่อ่อนแรง ภูมิคุ้นกันน้อย หรือเป็นโรคเรื้อรังมานาน
2. ผู้ป่วยที่มีภาวะโรครุนแรง เช่นโรคหัวใจหรือทางเดินหายใจล้มเหลว
3. ผู้ป่วยที่เป็นโรคเลือด หรือเลือดออกง่าย 
4. ผู้ที่มีโรคติดต่อทั้งทางผิวหนัง และทางเดินหายใจ หรือมีอาการแพ้ที่บริเวณผิวหนัง ผิวหนังบวมแดง
5. สตรีมีครรภ์ห้ามกวาซาบริเวณเอวและท้องน้อย
6. ทารกที่กระหม่อมยังไม่ปิด และบริเวณศีรษะและคอ

การเลือกท่าของผู้ป่วยในการกวาซา 
การเลือกท่าของผู้ป่วยในการรักษานั้นสำคัญ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดนั้นต้องคำนึงถึงความสบายของผู้ป่วยและ เหมาะสมกับบริเวณที่รักษา โดยท่าที่ใช้ส่วนใหญ่จะมีคือ
1. นอนคว่ำหรือท่านั่งฟุบ เหมาะกับที่ต้องรักษาบริเวณศีรษะลำคอ ไหล่ หลัง รวมถึงแขนและขา
2. ท่านอนตะแคง เหมาะกับบริเวณศีรษะ ใบหน้า อก ลำตัวและท้อง รวมถึงขาด้านใน
3. ท่านยืน เหมาะกับบริเวณหลัง เอว ขาด้านหลัง

วิธีการกวาซามีดังนี้
1. เตรียมผิวหนังที่ต้องการรักษา แล้วทาน้ำมันนวด น้ำเปล่า เหล้าขาว หรือวาสลินบริเวณผิวที่ต้องการรักษา
2. จับแผ่นที่ใช้ในการกวาซาโดยใช้มือข้างที่ถนัด บางคนอาจจับมือเดียวหรือสองมือ แล้วแต่ความถนัดของแต่ ละคน ทำมุมกับผิวหนัง 45-90 องศา
3. จากนั้นเริ่มการขูดแผ่นกวาซาบริเวณที่รักษา โดยเริ่มแรกอาจจะเริ่มจากเบาและช้า เมื่อผู้ป่วยเริ่มปรับสภาพ หรือทนไหว ก็จะเพิ่มความเร็วและแรงขึ้น ข้อสำคัญไม่ควรขูดแรงเกินไป และไม่ทำให้ผิวหนังบริเวณที่รักษา เกิดความเสียหาย
4. เช็ดทำความสะอาดคราบน้ำมันนวด คราบเหล้าขาว หรือวาสลินออก

ลักษณะสีของจุดแดงหรือห้อเลือดหลังทำ

1. สีแดงสด คือภาวะโรคยังอยู่ในระดับผิวภายนอก เป็นโรคที่เพิ่งเกิด ไม่ได้เป็นร้ายแรง รักษาหายได้ไว หรือการได้รับความร้อนสะสม
2. สีม่วงช้ำ คือภาวะโรคเข้าถึงระดับภายใน เป็นโรคเรื่องรังเป็นมานาน รักษาหายช้า หรือเกิดจากการได้รับความเย็นสะสม

ขอขอบคุณ พจ.เบญญาภา จารุเลิศวัฒนา 
อาจารย์แพทย์แผนจีน 
วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต

ขอบคุณภาพประกอบจาก internet

ศูนย์การแพทย์แผนตะวันออก (Oriental Medicine Centre) มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดบริการตรวจวินิจฉัยรักษาโรค ส่งเสริมสุขภาพและความงาม ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย จีน 9.00-17.00 น แผนกคลินิกการแพทย์แผนไทยขยายเวลาถึง 20.00 น ในวันจันทร์ พุธ ศุกร์ โทร.02-997-2222-30 ต่อ 4405-6 หรือ 089-770-5862




 
     

วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
หมู่บ้านเมืองเอก ถนนพหลโยธิน ต.หลักหก อ.เมือง ปทุมธานี 12000
โทร: 02-997-2222 ต่อ 5161 แฟกซ์: 02-997-2222 ต่อ 5160  
Email: ormrsu@hotmail.com
Social media: https://facebook.com/orientalmedrsu/
Copyright : College of Oriental Medicine, Rangsit University